วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ข้อดี-ข้อเสีย ของไส้เดือน แต่ละสายพันธุ์

สายพันธุ์ ไส้เดือนที่คนนิยมเลี้ยงกันมีประมาณ 10 ชนิด แต่เฉพาะในไทยเด่นๆ แล้วมี 4 ชนิด
(1) ไส้เดือนพันธุ์ Eudrilus eugeniae (African NightCrawler)
- ข้อดี คือกินเก่งโดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง
ขยายพันธุ์เร็ว มีลูกดก
ตัวโตเหมาะจะไปใช้ประโยชน์เป็นอาหารโปรตีน เช่น เลี้ยงกบ หรือเป็นอาหารนก แบบที่คุณ dew ต้องการใช้ก็ได้

- ข้อเสีย บางครั้งไส้เดือนชนิดนี้มักจะถูกฝึกให้กินแต่โปรตีน หรือกินแต่อาหารดีๆ จึงมักไม่กินขยะ
ตัวมักเปื่อยง่าย เนื่องจากตัวของมันมีโปรตีนมาก


(2) ไส้เดือนพันธุ์ Perionyx excavatus (Blue worm)
- ข้อดี คือกินเก่งไม่เลือกกินเหมือน AF
ขยายพันธุ์เร็ว มีลูกดกมากๆๆๆๆ

- ข้อเสีย ตัวเล็กแยกตัวลำบาก, พอเยอะแล้วมันชอบรามไปที่บ่ออื่น


(3) ไส้เดือนพันธุ์ Eisenia foetida (Tiger)
- ข้อดี คือกินเก่ง
ตัวมีขนาดใหญ่พอสมควร

- ข้อเสีย ฝักไข่นาน และชอบอากาศค่อนข้างเย็นเหมาะสมที่จะเลี้ยงทางเหนือ หรืออีสาน ถ้าเลี้ยงในกรุงเทพมักจะกินไม่เก่งเท่า

(4) ไส้เดือนพันธุ์ Pheretima peguana (ขี้ตาแร่)
**** เป็นไส้เดือนแดงพันธุ์ไทยที่นิยมกันอยู่ในตอนนี้ ทั้งเทศบาล โรงเรียน โรงพยาบาล กำลังหันมาใช้ไส้เดือนชนิดนี้ เนื่องจากเป็นไส้เดือนท้องถิ่น สามารถเก็บรวบรวมจากธรรมชาติได้
- ข้อดี คือกินขยะเก่ง ตัวมีขนาดใหญ่พอสมควร
ไส้เดือนประจำถิ่นสามารถหาได้จากธรรมชาติ
- ข้อเสีย โตช้ากว่าไส้เดือนเมืองนอก และที่สำคัญหนีเก่ง ถ้าไม่รู้จักนิสัยใจขอเค้าแต่ถ้าเลี้ยงเป็นจะกินดีมากๆ

*** สำหรับไส้เดือนที่ขุดได้ในสวน มักจะเป็นไส้เดือนสีเทา สังเกตุง่ายๆคือตัวจะมีขนาดใหญ่ หรือเอามือถูตามตัวจะทรากๆๆ ซึ่งสามารถให้ลูกเยอะ และเลี้ยงได้เช่นกัน แต่มักจะไม่ค่อยกินอาหาร จะชอบกินอินทรีย์วัตถุในดินมากกว่า

ก่อนลงมือเลี้ยงไส้เดือน

          ก่อนลงมือเลี้ยงไส้เดือนท่านคงมีคำถามมากมายๆอยู่ในหัวเต็มไปหมด เช่น เลี้ยงแล้วจะไปขายใคร,ตลาดอยู่ที่ไหน,เลี้ยงยากมั้ย,ไส้เดือนที่เจอตามสวนนำ มาเลี้ยงได้หรือป่าว,ทำไมราคาไส้เดือนแพงจัง,ปุ๋ยไส้เดือนดีจริงหรือ และอีกหลายต่อหลายคำถามที่พบได้เจออยู่ทั่วไป
          จากสภาพสังคม เศรษฐกิจในปัจจุบันมีผู้คนที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจไม่น้อย หลายคนที่หันหน้าเข้าสู่วิถีทางแห่งเกษตรกรรม แต่การจะเข้ามาหนทางนี้ ใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ หากคิดว่ามีที่มีทาง มีสองมือ หนึ่งแรง จะเสกสรรให้สวนสำเร็จในพริบตาคงไม่ได้ เฉกเช่นเดียวกับการเลี้ยงไส้เดือนเช่นกัน ก่อนที่จะลงมือเลี้ยง จงตั้งสติคิดให้ดี คิดให้รอบคอบ ศึกษาข้อมูลให้มากๆในทุกมุมเท่าที่จะหาได้ ตลอดทั้งผลประโยชน์ที่จะได้รับ และผลเสียที่จะต้องเจอ ผลตอบแทนที่ได้จะคุ่มค่ากับการลงทุน กับเวลาที่เสียไปหรือไม่ และตลาดของผลผลิตจากไส้เดือน (ตัวไส้เดือน,ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน,ปุ๋ยน้ำหมักมูลไส้เดือน(ฉี่ไส้เดือน)) อย่าเห่อตามกระแส หรือตามคำวิจารณ์ของคนอื่น เพราะทุกธุรกิจมีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ล้มเหลว


ผมขอฝากข้อดคิดเล็กๆน้อยๆ สำหรับคนที่จะเลี้ยงไส้เดือน ดังนี้


ข้อแรก การเลี้ยงไส้เดือนต้องใช้เวลา ไม่มีหรอกที่เลี้ยงแล้วได้เงิน รวยเละทันที ใครบอกคุณแบบนั้น นั่นโกหก

ข้อสอง ตลาดไส้เดือนยังสามารถเติบโตได้โดยเฉพาะตลาดปุ๋ย แต่คุณต้องหาตลาดเอง อย่าหลงเชื่อใครที่บอกคุณว่า มีตลาดแน่นอน เวลาที่เขาจะเอาเงินคุณ เขาก็ต้องพูดให้มันสวยหรู ดูดี เพราะถ้าบอกว่า ไม่มีหรอก ต้องไปหาตลาดเอาเอง คุณก็คงไม่ซื้อไส้เดือนเขาหรอก จริงไหม

ข้อสาม การซื้อไส้เดือนซื้อที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อกับคนที่เขาคุณไปสอบถามวิธีการเลี้ยง ถ้ามีเงื่อนไขว่า สอนวิธีเลี้ยงฟรี แต่ต้องซื้อไส้เดือนกับเขา กลุ่มของเขา อันนี้ไม่เรียกฟรีนะคะ ประเทศไหนบ้านไหนก็ไม่เรียกฟรี เราเป็นคนจ่ายเงิน เรามีสิทธิเลือกซื้อจากแหล่งที่ถูก คนที่อ้างตัวว่าเก่ง ไม่ได้หมายความว่า จะมีไส้เดือนวิเศษเลิศกว่าคนเลี้ยงคนอื่น เห็นมาแล้วคะ ไอ้ที่บอกเก่งเนี่ยหยิบ bedding ขี้ตาแร่ ไปใส่ให้ AF มาแล้ว มั่วไปมั่วมา

ข้อสี่ เวลาซื้อไส้เดือน กรุณาซื้อเฉพาะไส้เดือน อย่าให้ใครเขาหลอกชั่งรวมกับ bedding นะครับ ซื้อให้เต็มกิโล ประเภทซื้อกิโลแต่ได้หกขีดอย่าไปซื้อมัน

ข้อห้า วิธีเลี้ยงไส้เดือนสามารถหาอ่านได้จากหนังสือไส้เดือนดินของดร.อานัฐ ตันโช (ละเอียดมาก) หรือ search หาจาก internet มีข้อมูลมากมายมหาศาล แต่ผู้ เลี้ยงทุกคนจะต้องไปปรับวิธีการเพาะเลี้ยง วิธีการผสม bedding การควบคุมอุณหภูมิ การให้อาหาร ในแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่คุณเลี้ยงไส้เดือนนะคะ ไม่มีรูปแบบตายตัวเพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง วิธีใครก็วิธีใคร วิธีดีที่สุดอาจไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงของฟาร์มคุณก็ได้

ข้อหก ศึกษาสายพันธุ์ที่จะเพาะเลี้ยงให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการเพาะเลี้ยงของคน แต่ละพันธุ์มีข้อดีข้อเสียเฉพาะตัว สายพันธุ์นอกอาจจะกินเก่ง ลูกเยอะ แต่ก็ตัวเปื่อยง่ายกว่าพันธุ์ไทย ส่วนพันธุ์ไทยอาจอึด ดูแลง่าย แต่ก็มีความตื่นตัวเรื่อง อุณหภูมิได้มากกว่าพันธุ์นอกหรือเลี้ยงง่ายๆ ว่า หนีเก่งกว่าพันธุ์นอกเยอะ

อย่าเชื่อที่ใครบอกว่า สายพันธุ์นอกจะไม่หนี ถ้าเลี้ยงไม่เป็น เลี้ยงไม่ดีไส้เดือนหนีทุกสายพันธุ์ครับ


ข้อเจ็ด อย่ารีบซื้อไส้เดือน ลองเลี้ยงจากจำนวนน้อยๆ ก่อน อย่าซื้อไส้เดือนเพิ่มหากยังไม่มีความชำนาญในการเลี้ยง เพราะถ้าคุณยังไม่มีการวางแผนการขยายฟาร์ม มือยังไม่เก๋าพอ สองเดือนแรกอาจสนุก แต่พอเดือนที่สี่รับรองว่า ร้องอ้วกทุกราย

ข้อแปด การตระเวณดูฟาร์ม ควรดูสักหนึ่งหรือสองฟาร์มก็เพียงพอแล้ว เพราะถ้ายิ่งดูฟาร์มมากเท่าไหร่ คุณก็จะสับสนกับวิธีการเลี้ยงที่ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่งั้นในหัวจะเต็มไปด้วยคำถาม และคุณจะต้องเหนื่อยไปลองทำตามแบบของทุกฟาร์ม เหนื่อยตายห่า อย่าหลงทาง เพราะเคยเป็นมาแล้ว ตระเวณดูไม่รู้กี่ฟาร์ม ทั้งฟาร์มที่ใหญ่ที่สุด ฟาร์มที่ธรรมดาที่สุด ฟาร์มที่มีเท่าหยิบมือแต่คุยว่า เป็นฟาร์ม (ขอแดกดันหน่อยเหอะ) สุดท้ายกลับมาตายรัง back to basic คือ เลี้ยงแบบวิธีที่เลี้ยงมาตั้งแต่นั่นแหละ ถูกแล้ว เสียแรงเปล่าไปตั้งหลายเดือน

ข้อเก้า วงการไส้เดือนไม่มีใครเป็นหัวหน้าใครนะคะ ไม่มีใครแต่งตั้งใครเป็นประธานทั้งนั้น ถ้า มีคนเป็นก็คงจะเป็นพวกสถาปนาตัวเองเอาทั้งนั้น อะไรที่สวยหรู อะไรที่ดูดี ฟังแล้วดูน่าเชื่อเถือ ลองสืบค้นข้อมูลจากคนเลี้ยงไส้เดือนกลุ่มอื่นให้ดี มีเรื่องชั่ว เรื่องเลวปกปิดไว้เสมอ เตือนแล้วนะคะ

ข้อสิบ ใคร ที่ทำเลว ทำตัวเป็นกูรู้  ใครที่หลอกลวงเรื่องตลาดไส้เดือนว่า กำลังมีคนติดต่อทั้งปุ๋ย ทั้งเรื่องตัว (ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ไม่มีเลย แค่จะหลอกขายตัวไส้เดือนให้คนซื้อเท่านั้น อย่าเถียงว่าไม่จริงนะเมิง ข้อมูล inside จากคนในกลุ่มคุณนั่นแหละที่มาแฉให้กูฟัง)ใครที่ค้าขายคดโกง ใครที่หลอกให้คนไม่มีงานมีความหวัง เรื่องชั่วๆ ที่ทำให้ อย่าคิดว่า ไม่มีใครรู้ มีคนรู้พฤติกรรมพวกคุณเยอะแยะ (มีเกษตรหลายรุ่นเชียวหล่ะ) เลิกเถอะ รวยจากความเลว ไม่เจริญหรอก